
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) ออก 7 มาตรการช่วยลูกค้าที่ได้รับผลพวงจากลมพายุโนรู ลดเงินงวด 50% ลดดอก พักใช้หนี้ ปราศจากหนี้สินนิดหน่อย จ่ายเงินค่าปรับเร่งด่วน
นายฉัตรชัย ศรีไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) กล่าวมาว่า ภายหลังเมืองไทยจำต้องเผชิญกับ “ลมพายุดีเปรสชั่นโนรู” ที่ทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ตกหนักมากมายบางพื้นที่รอบๆภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกึ่งกลาง และจังหวัดกรุงเทพมหานคร บริเวณรอบๆ ภาคทิศตะวันออกและก็ภาคใต้ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดน้ำหลากเฉียบพลันแล้วก็น้ำป่าไหลหลั่ง สร้างผลพวงต่อที่พักที่อาศัย และก็การเลี้ยงชีพของพลเมือง
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของเมือง ที่มีหน้าที่ “ทำให้คนประเทศไทยมีบ้าน” ก็เลยรีบทุเลาความลำบากให้แก่ลูกค้าพลเมือง ตามหลักการรัฐบาลด้วยการจัดทำ “มาตรการช่วยเหลือผู้เผชิญภัยหายนะ ทางธรรมชาติ ปี 2565” (กรอบวงเงินรวม 1,000 ล้านบาท) โดยพินิจตามระดับความย่ำแย่ ซึ่งมีเนื้อหา ดังต่อไปนี้
มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าเดี๋ยวนี้ของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่อยู่ระหว่างการใช้อัตราค่าดอกเบี้ยลอยตัว(MRR -0.50%,MRR -1.00% หรือ MRR ฯลฯ) กรณีหลักประกัน (ที่อยู่ที่อาศัยที่จำท่วมกับแบงค์) ของตนหรือสามีภรรยาได้รับความเสื่อมโทรมจากการเผชิญภัยหายนะทางธรรมชาติสามารถขอลดเงินงวด 50% จากเงินงวดที่จ่ายธรรมดา และก็ลดอัตราค่าดอกเบี้ยเหลือ 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน
มาตรการที่ 2 สำหรับลูกค้ากู้ใหม่ หรือลูกค้าตอนนี้ของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่หลักประกันของตนหรือคู่รักได้รับความย่ำแย่จากการเผชิญภัยหายนะทางธรรมชาติ สามารถขอกู้เพิ่ม หรือกู้ใหม่ เพื่อก่อสร้างตึกชดเชยข้างหลังเดิม หรือกู้ซ่อมตึกที่ได้รับความเสื่อมโทรม วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 หลักประกัน คิดอัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมคงเดิม 3% ต่อปี นาน 1 ปี ปีที่ 2 – 3 อัตราค่าดอกเบี้ย MRR –3.15% ต่อปี(เดี๋ยวนี้พอๆกับ 3% ต่อปี) และก็ปีที่ 4 จนกระทั่งตลอดอายุคำสัญญาเงินกู้ยืมกรณีลูกค้าผลประโยชน์ ดอกพอๆกับ MRR -1% ต่อปี
กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วๆไป ดอกพอๆกับ MRR – 0.50% ต่อปี พร้อมนอกจากค่าธรรมเนียมในรายการที่เกี่ยวให้ทั้งสิ้น มี ค่าธรรมเนียมการขอเปลี่ยนอัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืม และก็ค่าธรรมเนียมการขอเปลี่ยนข้อตกลงการกู้ยืมทุกกรณีภายหลังนิติกรรมแล้วในรายการที่เกี่ยวโยง
มาตรการที่ 3 ลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความย่ำแย่ ให้ประนอมหนี้ช่วงเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราค่าดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่จะต้องจ่ายเงินงวด แล้วหลังจากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราค่าดอกเบี้ย 1% ต่อปี โดยให้ผ่อนหนี้เงินงวดไม่น้อยกว่าดอกทุกเดือน รวมทั้งเมื่อครบช่วงเวลาประนอมหนี้ให้กลับมาใช้อัตราค่าดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนจะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 4 ลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลพวงด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคิดอัตราค่าดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก รวมทั้งผ่อนหนี้เงินงวดเพียงแค่ 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งปวง) ต่อจากนั้นเดือนที่ 7-12 อัตราค่าดอกเบี้ย 1% ต่อปี โดยให้ผ่อนส่งเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกทุกเดือน บวกอีก 100 บาท แล้วก็เมื่อผ่อนหนี้ครบช่วงเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราค่าดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนจะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 5 ลูกค้าสถานะบัญชีธรรมดาแล้วก็สถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือพิการถาวร ให้ผ่อนหนี้โดยใช้อัตราค่าดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดเวลาที่ยังเหลือ (พิเคราะห์เป็นรายกรณี)
มาตรการที่ 6 ลูกค้าสถานะบัญชีธรรมดาแล้วก็สถานะ NPL ถ้าที่อยู่ที่อาศัยได้รับความเสื่อมโทรมทั้งยังข้างหลัง และไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมได้ ให้ปราศจากหนี้สินในส่วนของราคาตึก และก็ให้ผ่อนส่งต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่ยังเหลือแค่นั้น (ใคร่ครวญเป็นรายกรณี)
มาตรการที่ 7 พิเคราะห์เงินค่าปรับเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์รับรองไฟไหม้สำหรับที่พักอาศัยซึ่งคุ้มครองป้องกันภัยจากธรรมชาติ รวมทั้งกรณีน้ำหลาก หรือ ลมพายุ ใคร่ครวญจ่ายค่าทำขวัญให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ได้รับภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้ประกันยื่นเอกสารฟ้องร้องเสียหาย จ่ายตามความ เสียหายจริงตามรูปถ่าย รวมทุกภัยจากธรรมชาติไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี แล้วก็สำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์ เริ่มความปกป้องเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 62 เพิ่มความป้องกันภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติตามความย่ำแย่จริงจากหลักฐานรูปถ่าย แม้กระนั้นไม่เกินภัยละ 30,000 บาทต่อปี